ฝึกคิดแบบฝรั่ง จะได้พูดแบบฝรั่ง

เรามักจะได้ยินอาจารย์ผู้สอนบอกอยู่เสมอครับว่า เวลาพูดภาษอังกฤษนั้นอย่านึกคำไทยก่อนแล้วค่อยพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นก็ถูกต้องเลยครับ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เห็นด้วย 100% นะคร้าบบบบบ

เพราะการที่เราคิดเป็นคำไทยก่อนแล้วค่อยพูดนั้น จะทำให้เกิดข้อเสียเปรียบในหลายๆด้านครับ ง่ายๆอย่างแรกเลย คือ “ช้า” ครับ เพราะลองคิดดูสิครับว่ากว่าเราจะแปลจากไทยเป็นอังกฤษในหัว แปลเสร็จไม่พอยังต้องคอยแก้ไวยกรณ์ในสมองอีกขั้น กว่าจะผ่านการ approved หรือรับรองก่อนว่าถูกต้อง แล้วจึงค่อยพูดออกมานั้น ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า ฝรั่งมันคงรอจนนึกว่าเราเป็นใบ้ไปแล้วครับ

นึกภาพง่ายๆ เวลาเราพูดภาษาไทย เราพูดกันได้คล่องเพราะเราไม่ต้องผ่านกระบวนการดังกล่าว คือเราพูดออกมาได้เลยตามความรู้สึกที่เราอยากจะสื่อ ดังนั้นมันจึงคล่องและดูมีความมั่นใจเต็ม 100 นักเรียนหลายๆคนบอกว่า โธ่พี่! พูดนะมันง่าย แต่ทำนะมันยาก ว่าแต่พี่เถอะ! ทำได้รึเปล่า! ซึ่งตรงนี้ผมก็ยอมรับครับว่ามันดู “พูดง่ายแต่ทำยาก” แต่บังเอิญว่าผม “ทำมันได้” อะสิ เฮ้อ…. เอาอย่างนี้ครับ ผมอยากจะให้น้องๆลองฝึกพูดดังนี้ครับ…..

หนึ่ง! หรืออย่างแรกเลยครับ คือมีความมั่นใจเอาไว้ก่อน คิดซะว่าพูดผิดไม่เป็นไร หรือถ้ามันฟังเราไม่ออก ก็คิดซะว่า “มันโง่” ที่ฟังเราไม่ออก ฮ่าๆๆๆ โดยเรื่องของการพูดผิดนั้น บอกได้เลยครับว่า “ไม่ต้องกลัว” เพราะขนาดฝรั่งเอง เชื่อมั้ยครับว่า ผมเองก็เคยได้ยินมันพูดผิดเช่น She have, They has ก็เคยได้ยินมาแล้วครับจริงๆ แต่ถ้าถามว่าผิดแบบนี้แล้วฟังรู้เรื่องมั้ย ก็ต้องตอบว่า “รู้เรื่องครับ” เอ้า! ถ้ารู้เรื่อง แล้วมันจะไปกังวลอะไรเล่า! จริงมะๆ โบราณไทยว่า “พูดไปสองไผ่เบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” แต่ผมว่า “พูดไปได้คะแนน นิ่งเสียสอบตก” ละครับงานนี้ เอิกๆๆๆ

อย่างที่สองก็คือการคิดแบบอังกฤษในสมองเลย อันนี้คงจะไม่มี  trick อะไรมากมายครับ นอกจากจะบอกน้องๆว่า ให้ไปฟังฝรั่งมันพูดเยอะๆ เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี จะจากอะไรก็ได้ครับ หนัง วิทยุ หรือคนตามท้องถนน (ในกรณีที่คุณอยู่เมืองนอกหรือย่านที่มีชาวต่างชาติเยอะๆ) เหมือนที่ผมเคยเขียนอยู่เสมอๆครับว่า การฝึก reading คุณจะได้ writing ด้วย และการฝึก listening คุณก็จะได้ speaking ด้วยเช่นกัน เพราะการที่เรา listening หรือฟังมันบ่อยๆนั้น ไม่น่าเชื่อนะครับว่า คำพูดเหล่านั้นมันจะ “ซึม” เข้ามาสู่สมองของเราอย่างไม่รู้ตัวเลยละครับ และเมื่อเวลาผ่านไปซัก  6 เดือนจนถึง 1 ปี (สำหรับนักเรียนเริ่มต้น) ผมเชื่อเหลือเกินครับว่า เค้าจะต้องคุ้นกับการพูดในแบบฝรั่งมากขึ้นเยอะ และสุดท้ายมันก็จะช่วยให้พวกเค้าไม่คิดจากไทยแล้วแปลเป็นอังกฤษ เมื่อเวลาจะพูด อีกต่อไป………..

พื้นที่เดือนนี้หมดแค่นี้ ตอนหน้าเราจะมาดูกันต่อครับว่า ยังพอจะมีเคล็ดลับอะไรเล้กๆน้อยที่จะมาช่วยสนับสนุนการฝึกพูดของเราได้บ้างครับ